7r มี อะไร บ้าง จัดการขยะก่อนทิ้งลงถังขยะตามหลัก 7R

ในบทความบนเว็บไซต์ bebugold.vn นี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อ “7r มี อะไร บ้าง” และวิธีนำหลักการ 7R ไปใช้ในการจัดการขยะก่อนทิ้งลงถังขยะ หลักการ 7R ได้แก่ การรีไซเคิล, การใช้พลังงาน, เราต้องการกลับมาใช้ใหม่, การเติม, การควบคุม, การสิ้นสุด และต่อเนื่อง เราจะสำรวจหลักการแต่ละข้อโดยละเอียด และเหตุใดหลักการเหล่านี้จึงมีความสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดของเสีย เรามาสำรวจร่วมกันถึงวิธีการนำหลัก 7Rs ไปใช้เพื่อสร้างชีวิตที่ยั่งยืนและจำกัดผลกระทบด้านลบต่อโลกของเรา

I. 7r มี อะไร บ้าง
การรักษาสิ่งแวดล้อมและการลดปริมาณขยะพลาสติกกำลังเป็นประเด็นสำคัญในปัจจุบัน การทำ 7R เป็นหนึ่งในวิธีที่เราสามารถช่วยลดปริมาณขยะและรอดำเนินการให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมได้ คำว่า 7R แท้จริงนี้สะท้อนถึงคำบอกเล่าเกี่ยวกับกระบวนการลดปริมาณขยะ มาชมรายละเอียดของ 7R และทำความเข้าใจเกี่ยวกับแต่ละคำได้ดังนี้:
- รีฟิล (Refill – เติม): การนำภาชนะมาเติมใหม่ เช่น ขวดน้ำ, ชามอาหาร เป็นวิธีที่ดีในการลดขยะพลาสติก หากเราสามารถนำภาชนะที่เรามีมาเติมให้เต็ม แทนที่จะซื้อภาชนะใหม่ เราจะลดปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ
- ดัดเติม (Reuse – ใช้ใหม่): การนำของใช้เก่ามาใช้ใหม่ เช่น การนำกระเป๋าผ้าไปใช้แทนถุงพลาสติก
- รีไซเคิล (Recycle – รีไซเคิล): การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ใหม่ ตัวอย่างเช่น การนำขวดพลาสติกไปรีไซเคิลเป็นขวดพลาสติกใหม่
- คืนสู่ผู้ผลิต (Return – คืน): การคืนบรรจุภัณฑ์หรือวัสดุให้กับผู้ผลิต เพื่อให้เขาสามารถนำมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล
- ซ่อมแซม (Repair – ซ่อมแซม): การซ่อมแซมสิ่งของที่เสียหายแทนที่จะซื้อใหม่ เช่น การเย็บเสื้อผ้าที่แตกหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า
- แทนที่ (Replace – แทนที่): การใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนที่วัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดปัญหาเช่น การใช้ถูกใจในแปรงสีฟันไม้แทนแปรงสีฟันพลาสติก
- ซ้ำใช้ (Reconsider – พิจารณาใหม่): การพิจารณาให้ความสำคัญกับวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่เราใช้และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการใช้งานในทุกๆ ด้านของชีวิต
การปฏิบัติตามหลัก 7R นี้เป็นวิธีที่ดีในการสร้างสภาวะที่มีปริมาณขยะน้อยลงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดนี้ เราสามารถช่วยให้โลกของเราเป็นที่ยอดเยี่ยมขึ้น และรักษาสิ่งแวด

II. เหตุใดจึงต้องนำหลักการ 7R มาใช้?
การปฏิบัติตามหลัก 7R เป็นสิ่งสำคัญอย่างไร รวมถึงผลกระทบของขยะต่อสิ่งแวดล้อมและประโยชน์ของการลดขยะที่มีอยู่
การปฏิบัติตามหลัก 7R เป็นการกระทำที่มีความสำคัญอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่ขยะสามารถก่อให้เกิดกับสิ่งแวดล้อมและสังคม เราสามารถดำเนินการตามหลัก 7R ได้ดังนี้:
- ลดขยะ: การลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ไม้, น้ำ, และพลังงาน ที่ใช้ในการผลิตขยะ ทำให้สิ่งแวดล้อมหลีกเลี่ยงได้จากการกินทรัพยากรที่จำเป็น
- ใช้ให้ครบ: การใช้สิ่งของให้ครบถ้วนจนไม่เหลือส่วนที่ไม่สามารถใช้งานได้ช่วยประหยัดทรัพยากรและลดการผลิตขยะ
- รีไซเคิล: การรีไซเคิลขยะช่วยลดการใช้วัสดุใหม่ และลดการตีพิมพ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การทำกระดาษใหม่ และลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงในบ่อขยะ
- คืนสิ่งของ: การคืนสิ่งของหรือบริการหลังจากการใช้งานช่วยลดการสร้างขยะ โดยลดความจำเป็นในการผลิตสิ่งของใหม่
- ซ่อมแซม: การซ่อมแซมสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่เสียหายเป็นวิธีที่มีประโยชน์ทั้งในการประหยัดเงินและประทับใจสิ่งแวดล้อม หน้าที่ของการซ่อมแซมเป็นการลดขยะและการจัดการขยะ
- แทนที่: การเลือกใช้วัสดุหรือสิ่งของทดแทนที่มีผลกระทบน้อยกว่าต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดการใช้สิ่งของที่มีมูลค่าต่ำและผลกระทบสิ่งแวดล้อมสูง
- คิดใหม่: การพิจารณาว่าสิ่งของหรือบริการที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นช่วยลดการสร้างขยะที่ไม่จำเป็นและช่วยลดรายจ่ายของเรา
การปฏิบัติตามหลัก 7R ช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังบ่อขยะ ลดการใช้สิ่งของใหม่และประหยัดทรัพยากร ลดการสร้างปริมาณขยะที่ไม่จำเป็นและช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมของเราให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ การปฏิบัติตามหลัก 7R เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในสังคมและในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสำหรับรุ่นหลังๆ ของเราและโลกใบนี้

III. วีดีโอ บ้าง จัดการขยะก่อนทิ้งลงถังขยะตามหลัก 7R
IV. รายละเอียดหลักการ “เติมเงิน” และวิธีนำไปใช้ในชีวิต
หลักการ “การเติมน้ำ” คือกระบวนการการใช้ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอโดยการเติมหรือรีไฟลล์วัสดุหรือสิ่งของภายในภาชนะ โดยไม่ต้องซื้อบรรจุภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง หรือเทิร์นใช้งานเฉพาะครั้งเดียว
วิธีการนี้มีความสำคัญมากเพราะมีผลกับการลดขยะที่เกิดขึ้น การลดการใช้งานบรรจุภัณฑ์ใหม่ และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ “การเติมน้ำ” และวิธีการใช้งานในชีวิตประจำวัน:
- นำภาชนะมาเติมน้ำ: หลักการนี้เริ่มต้นด้วยการใช้ภาชนะที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อเติมน้ำหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณต้องการ สิ่งนี้สามารถใช้กับน้ำดื่ม, สบู่, น้ำยาล้างจาน และอื่น ๆ อีกมากมาย
- วิธีการใช้งาน: การใช้หลักการ “การเติมน้ำ” คือการนำภาชนะว่างมาที่ร้านหรือสถานที่ที่มีบริการเติมน้ำหรือสินค้า ในกรณีของน้ำดื่ม เช่น คุณสามารถนำขวดน้ำเปล่ามาเติมน้ำในร้านน้ำดื่มของคุณ การใช้งานในรูปแบบนี้ช่วยลดการใช้ถ้วยพลาสติกหรือขวดพลาสติกใช้เพียงครั้งเดียว
- ประโยชน์: การนำหลักการ “การเติมน้ำ” มาใช้ในชีวิตประจำวันช่วยลดปริมาณขยะที่สร้างขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ใหม่ ลดการใช้งานถ้วยพลาสติกและขวดพลาสติก ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเช่น น้ำมันและพลังงานที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่
- ตัวอย่าง: ตัวอย่างที่ดีของการนำหลักการ “การเติมน้ำ” มาใช้คือการนำขวดน้ำเปล่ามาเติมน้ำที่สถานีน้ำดื่มสาธารณะ หรือการนำกระป๋องเปล่ามาเติมน้ำอัดแก๊สในร้านอาหาร หรือการนำภาชนะว่างมาเติมสบู่ในร้านค้า
การปฏิบัติตามหลักการ “การเติมน้ำ” เป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์ทั้งสำหรับสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้ โดยช่วยลดการสร้างขยะที่ไม่จำเป็นและส่งผลดีต่อโลกของเราในระยะยาว

V. การใช้ซ้ำ – การนำกลับมาใช้
หลักการ “การใช้ซ้ำ” เป็นหนึ่งในหลักการสำคัญในการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในสังคมของเรา แนวคิดหลักของ “การใช้ซ้ำ” คือการนำสิ่งของหรือบรรจุภัณฑ์ที่เรามีอยู่แล้วมาใช้ใหม่ โดยไม่ต้องทิ้งหรือซื้อสิ่งใหม่เสมอ หลักการนี้มีความสำคัญมากเนื่องจากมีผลต่อการลดขยะที่สร้างขึ้น ลดการใช้งานสิ่งของใหม่ และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยอธิบายหลักการ “การใช้ซ้ำ” และความสำคัญของการเติมใช้สินค้าและบรรจุภัณฑ์ใหม่:
- หลักการ “การใช้ซ้ำ”: การใช้ซ้ำหมายถึงการนำสิ่งของหรือบรรจุภัณฑ์ที่เรามีอยู่มาใช้ใหม่โดยไม่ต้องทิ้งทางหรือซื้อสิ่งใหม่ นี้อาจเป็นการนำเสื้อผ้าเก่ามาใส่อีกครั้งหรือการนำกระเป๋าผ้ามาใช้เป็นถุงสำหรับซื้อของ
- ความสำคัญของการใช้ซ้ำ: การใช้ซ้ำมีผลส่งเสริมการลดปริมาณขยะที่สร้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการทิ้งสิ่งของที่ยังใช้งานได้อยู่เป็นขยะที่ไม่จำเป็น ทำให้ประมาณขยะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การใช้ซ้ำยังช่วยลดการใช้งานวัสดุใหม่และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ไม้, น้ำมัน, แร่ธาตุ ซึ่งเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
- ตัวอย่างการใช้ซ้ำ: ตัวอย่างที่ดีของการใช้ซ้ำคือการนำกระเป๋าผ้ามาใช้เป็นถุงสำหรับซื้อของเวลาไปช้อปปิ้ง นี่เป็นวิธีที่ง่ายและมีประโยชน์ที่สามารถลดขยะที่เกิดขึ้นจากถุงพลาสติกใช้เพียงครั้งเดียว การใช้เสื้อผ้าเก่าๆ หรือของใช้ที่เรามีอยู่มากับเราในการเดินทางย่อยย้อนเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง
การปฏิบัติตามหลักการ “การใช้ซ้ำ” เป็นวิธีที่เราสามารถช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันไม่เพียงช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมการใช้งานอย่างระมัดระวัง แต่ยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต

VI. การซ่อมแซม – ซ่อมแซมแทนการซื้อใหม่
หลักการ “การซ่อมแซม” เป็นหลักการสำคัญในการช่วยลดปริมาณขยะที่สร้างขึ้นและสร้างประโยชน์สำหรับสิ่งแวดล้อม หลักการนี้เน้นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสิ่งของและอุปกรณ์ที่เรามีอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งใหม่ทุกครั้งที่เกิดความเสียหาย หลักการนี้มีความสำคัญอันมากมาย เนื่องจากมีผลส่งเสริมการประหยัดทรัพยากรและลดการทิ้งขยะลงในสิ่งแวดล้อม นี่คือการยกตัวอย่างหลักการ “การซ่อมแซม” และความสำคัญของการซ่อมแซมสิ่งของและอุปกรณ์:
- หลักการ “การซ่อมแซม”: การซ่อมแซมหมายถึงการให้การดูแลและซ่อมแซมสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่เสียหายเพื่อให้สามารถใช้งานต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมเสื้อผ้าที่แตกร้าวหรือการซ่อมเครื่องใช้ในบ้าน
- ความสำคัญของการซ่อมแซม: การซ่อมแซมมีประโยชน์มากไม่เพียงแต่ในด้านการประหยัดเงิน แต่ยังช่วยลดการใช้งานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การทิ้งสิ่งของที่เสียหายอาจสร้างปริมาณขยะมากขึ้น และการผลิตสิ่งใหม่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นการใช้งานวัสดุและพลาสติก
- ตัวอย่างการซ่อมแซม: ตัวอย่างที่ดีของการซ่อมแซมคือการซ่อมเครื่องใช้ในบ้าน เมื่อเครื่องใช้เสียหายและยังสามารถซ่อมได้ การซ่อมเครื่องนั้นสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและลดการทิ้งขยะได้ อาจเป็นการซ่อมเครื่องซักผ้าที่มีปัญหาในการทำงานหรือการซ่อมโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแตกร้าว
การปฏิบัติตามหลักการ “การซ่อมแซม” เป็นวิธีที่เราสามารถช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมการดูแลสิ่งของและอุปกรณ์ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน และยังช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติอันมีความมีค่าอีกด้วย
VII. สรุป – การนำหลักการ 7R มาใช้ในชีวิตประจำวัน
ในส่วนสุดท้ายของบทความนี้เราจะสรุปรายละเอียดสำคัญที่เราได้นำเสนอในบทความและแนะนำวิธีที่ทุกคนสามารถนำหลักการ 7R มาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยลดปริมาณขยะและปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ดังนี้:
- การรีไซเคิล (Recycle): ทำการแยกและรีไซเคิลวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น กระดาษและพลาสติก โดยใช้ถังขยะที่เหมาะสม รีไซเคิลเป็นส่วนสำคัญในการลดปริมาณขยะที่เข้าสู่บ่อกำจัดขยะ
- การลด (Reduce): ลดการใช้งานวัสดุและสิ่งของที่ไม่จำเป็น โดยเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยลงหรือไม่มีบรรจุภัณฑ์ที่ทิ้งทิ้งง่าย นอกจากนี้ยังสามารถลดการใช้พลาสติกและวัสดุพลาสติกในชีวิตประจำวัน
- การนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse): คิดให้ดีก่อนที่จะทิ้งของ เพราะบางครั้งสิ่งของที่เราคิดว่าเสียหายอาจสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซ่อมแซมหรือทำความสะอาดสิ่งของก่อนที่จะคิดทิ้ง
- การเติม (Refill): ซื้อสินค้าในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเติมใหม่ได้เช่น ขวดน้ำและขวดครีม นี้จะช่วยลดการใช้พลาสติกแบบหนึ่งครั้งและลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
- การซ่อมแซม (Repair): พยายามซ่อมแซมสิ่งของและอุปกรณ์ที่เสียหายแทนที่จะซื้อใหม่ นี้ช่วยประหยัดทรัพยากรและลดปริมาณขยะ
- การสิ้นสุด (Re-think): คิดใหม่เกี่ยวกับการใช้งานและการเลือกซื้อสินค้า พิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างขยะ และทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องโลกของเรา
- การรับรู้ (Respect): รับรู้ความสำคัญของการลดปริมาณขยะและปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้เรามีความรับผิดชอบในการดูแลโลกของเรา
การนำหลักการ 7R มาใช้ในชีวิตประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นแต่ยังช่วยประหยัดทรัพยากรและปกป้องสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเสริมสร้างวัฒนธรรมการดูแลสิ่งของและอุปกรณ์ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ในที่สุดเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ด้วยการใช้หลักการ 7R ในชีวิตประจำวันของเรา